เมนู

33. อรรถกถาอรณวิหารญาณนิทเทส


[215 - 216] พึงทราบวินิจฉัยในอรณวิหารญาณนิทเทส ดัง
ต่อไปนี้. อนิจจานุปัสนาเป็นต้น มีเนื้อความได้กล่าวไว้แล้ว.
บทว่า สุญฺญโต วิหาโร - สุญญตวิหาร ได้แก่ อรหัตผล-
สมาบัติอันเป็นไปแล้วโดยอาการแห่งสุญญตะคือความว่างเปล่า ของผู้ตั้ง
อยู่ในอนัตตานุปัสนา.
บทว่า อนิมิตฺโต วิหาโร - อนิมิตวิหาร ได้แก่ อรหัตผล-
สมาบัติอันเป็นไปแล้วโดยอาการแห่งอนิมิตตะ คือไม่มีนิมิต ของผู้ตั้งอยู่
ในอนิจจานุปัสนา.
บทว่า อปฺปณิหิโต วิหาโร - อัปปณิหิตวิหาร ได้แก่ อรหัต-
ผลสมาบัติโดยอาการแห่งอัปปณิหิตะ คือ ไม่ตั้งอยู่ ของผู้ตั้งอยู่ในทุกขา-
นุปัสนา.
บทว่า สุญฺญเต อธิมุตฺตตา ความที่จิตเป็นธรรมชาติน้อม
ไปในธรรมอันว่างเปล่า ได้แก่ ความที่จิตน้อมไปในธรรมชาติอันว่าง-
เปล่า ด้วยสามารถแห่งปัญญาอันเป็นส่วนเบื้องต้นแห่งผลสมาบัติ. แม้
ในสองบทที่เหลือก็มีนัยนี้เหมือนกัน.
ด้วยบทมีอาทิว่า ปฐมํ ฌานํ - ปฐมฌาน ท่านกล่าวถึงฌาน
สมาบัติอันเป็นอารมณ์แห่งวิปัสสนาของผู้ใคร่ เพื่อจะเข้าถึงอรหัตผล-

สมาบัติ. จริงอยู่ วิปัสสนาผลสมาบัติ และฌานสมาบัติอันน้อมไปเพื่อ
ความประณีตของพระอรหันต์เท่านั้น ย่อมควรเพื่อกล่าวว่า อรณวิหาร
คือความสงบ ความหมดทุกข์ เพราะละกิเลสทั้งปวงได้แล้ว.

บทว่า ปฐเมน ฌาเนน นีวรเณ หรตีติ อรณวิหาโร-
ชื่อว่าอรณวิหาร เพราะนำออกเสียซึ่งนิวรณ์ด้วยปฐมฌาน. อธิบายว่า
ปฐมฌานนั้นชื่อว่าอรณวิหาร เพราะองค์ประกอบแห่งปฐมฌาน ย่อม
นำออกเสียซึ่งนิวรณ์ด้วยปฐมฌาน. แม้ในบทที่เหลือก็มีนัยนี้เหมือน
กัน. พึงทราบว่าท่านกล่าวถึงปฐมฌานนำออกเสียซึ่งนิวรณ์ เพราะ
ปฐมฌานเป็นปฏิปักษ์ต่อนิวรณ์ แม้พระอรหันต์จะไม่มีนิวรณ์.

หากถามว่า เพราะเหตุไรท่านจึงยกอรณวิหารญาณขึ้นแสดง 3
อย่างด้วยสามารถแห่งการน้อมไป เพื่อความประณีตแห่งวิปัสสนา ผล
และสมาบัติแล้วชี้แจงว่าฌานสมาบัตินั่นแหละเป็นอรณวิหาร. ตอบว่า 3
อย่างนั้นสำเร็จแล้ว เพราะอรณวิหาร ด้วยสามารถอุทเทส. ความที่ฌาน
สมาบัติอันเป็นภูมิของผลสมาบัติและวิปัสสนา เมื่อท่านไม่กล่าวไว้ ก็
ย่อมไม่สำเร็จ. เพราะฉะนั้น เพื่อยังอรณวิหารที่ไม่สำเร็จนั่นแหละ
ให้สำเร็จ พึงทราบว่า ท่านกล่าวบทมีอาทิว่า ปฐมฌานเป็นอรณวิหาร.
จริงอยู่ ความที่ฌานสมาบัติเหล่านั้นเป็นอรณวิหาร แม้ไม่
สำเร็จด้วยสามารถแห่งอุทเทส ก็เป็นอันสำเร็จได้ เพราะท่านกล่าวไว้

แล้วในนิทเทส. อีกอย่างหนึ่ง โดยนัยที่ท่านประกอบอรณวิหารไว้แล้ว
พึงประกอบแล้วถือเอาดังนี้ อนิจจานุปัสนา ชื่อว่าอรณวิหาร เพราะนำ
ออกเสียซึ่งนิจสัญญา. ทุกขานุปัสนา ชื่อว่าอรณวิหาร เพราะนำออก
เสียซึ่งสุขสัญญา. อนัตตานุปัสนา ชื่อว่าอรณวิหาร เพราะนำออกเสีย
ซึ่งอัตสัญญา. สุญญตวิหาร ชื่อว่าอรณวิหาร เพราะนำออกเสียซึ่ง
ความไม่ว่างเปล่า อนิมิตวิหาร ชื่อว่าอรณวิหาร เพราะนำออกเสีย
ซึ่งนิมิต. อัปปณิหิตวิหาร ชื่อว่าอรณวิหาร เพราะนำออกเสียซึ่งความ
ตั้งไว้. สุญฺญาธิมุตฺตตา - ความที่จิตเป็นธรรมชาติน้อมไปในธรรม
อันว่างเปล่า ชื่อว่าอรณวิหาร เพราะนำออกเสียซึ่งความน้อมไปใน
ธรรมอันไม่ว่างเปล่า. อนิมิตฺตาธิมุตฺตตา - ความที่จิตเป็นธรรมชาติ
น้อมไปในธรรมอันไม่มีนิมิต. ชื่อว่าอรณวิหาร เพราะนำออกเสียซึ่ง
ความน้อมไปในธรรมอันมีนิมิต. อปฺปณิหิตาธิมุตฺตตา - ความที่จิต
เป็นธรรมชาติน้อมไปในธรรมอันไม่มีที่ตั้ง ชื่อว่าอรณวิหาร เพราะ
นำออกเสียซึ่งความน้อมไปในธรรมอันมีที่ตั้ง.
จบ อรรถกถาอรณวิหารญาณนิทเทส

นิโรธสมาปัตติญาณนิเทส


[ 217 ] ปัญญาในความเป็นผู้มีความชำนาญ ด้วยความเป็นผู้
ประกอบด้วยพละ 2 ด้วยความระงับสังขาร 3 ด้วยญาณจริยา 16 และ
ด้วยสมาธิจริยา 9 เป็นนิโรธสมาปัตติญาณอย่างไร ?
คำว่า ด้วยพละ 2 ความว่า พละ 2 คือสมถพละ 1 วิปัสสนา-
พละ 1.
[218] สมถพละเป็นไฉน ? ความที่จิตมีอารมณ์เป็นอันเดียว
ไม่ฟุ้งซ่าน ด้วยสามารถแห่งเนกขัมมะ ด้วยสามารถแห่งความไม่พยา-
บาท ด้วยสามารถแห่งอาโลกสัญญา ด้วยสามารถแห่งความไม่ฟุ้งซ่าน
ฯลฯ ด้วยสามารถแห่งการพิจารณาเห็นความสละคืนหายใจเข้า ด้วย
สามารถแห่งการพิจารณาเห็นความสละคืนหายใจออก เป็นสมถพละแด่
ละอย่าง ๆ.
[219] คำว่า สมถพลํ ความว่า ชื่อว่าสมถพละ เพราะ
อรรถว่ากระไร ?
ชื่อว่าสมถพละ เพราะอรรถว่า ไม่หวั่นไหวเพราะนิวรณ์ ด้วย
ปฐมฌาน ไม่หวั่นไหวเพราะวิตกวิจาร ด้วยทุติยฌาน ไม่หวั่นไหว
เพราะปีติ ด้วยตติยฌาน ไม่หวั่นไหวเพราะสุขและทุกข์ ด้วยจตุตถฌาน
ไม่หวั่นไหวเพราะรูปสัญญา ปฏิฆสัญญา นานัตตสัญญา ด้วยอากาสา-